ตรวจการนอนหลับ...เพื่อหลับนี้มีคุณภาพนอนหลับทั้งทีต้องนอนให้มีคุณภาพ ถึงจะดีต่อสุขภาพร่างกาย ฟังดูแล้วการนอนหลับไม่น่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนอะไร แต่ทราบหรือไม่ว่าแม้แต่การนอนกรนที่หลายคนไม่เคยคิดเลยว่าเป็นเรื่องผิดปกติ กลับกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลต่อสุขภาพ เพราะขณะนอนกรนอาจมีภาวะยุดหายใจชั่วขณะร่วมด้วย ส่งผลถึงออกซิเจนไปเลี้ยงสมองและหัวใจโดยตรง อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้โดยไม่ทันตั้งตัว
Polysomnography ตรวจการนอนหลับ เป็นการตรวจนอนหลับด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ในช่วงเวลากลางคืนประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อดูลักษณะการนอนว่าหลับสนิทหรือไม่ การตรวจนี้ประกอบด้วย
- ตรวจวัดคลื่นสมอง วัดระดับความลึกของการนอนหลับ และประสิทธิภาพขณะนอนหลับ
- ตรวจดูการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ มีการเต้นผิดจังหวะที่มีอันตรายหรือไม่มากน้อยเพียงใด
- ตรวจวัดความอิ่มตัวของระดับออกซิเจนในเลือด ที่ส่งไปเลี้ยงสมองและหัวใจในขณะหลับ
- ตรวจวัดลมหายใจ ที่ผ่านเข้าออกทางจมูกและปาก
- ตรวจวัดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจ ได้แก่ กล้ามเนื้อทรวงอก และกล้ามเนื้อหน้าท้อง- ตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ เพื่อดูความตึงของกล้ามเนื้อและกระตุกขณะนอนหลับ
- ตรวจเสียงกรน ดังหรือเบาแค่ไหน กรนตลอดเวลาหรือไม่ กรนขณะนอนท่าไหน
- ตรวจท่านนอน แต่ละท่านนอนหายใจผิดปกติแตกต่างกันอย่างไร และนอนท่าใดทำให้กรนทั้งหมดนี้ใช้เวลาในการตรวจวัดช่วงกลางคืน อย่างน้อยประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาปกติของการหลับของคนทั่วไป และเป็นการตรวจด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อบันทึกรายละเอียดต่างๆขณะนอนหลับ วิธีการคล้ายกับการบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ แต่จะมีการติดอุปกรณ์มากกว่า โดยแบ่งการตรวจเป็น 2 แบบคือ
- การตรวจชนิดจำกัด ( Limited channel PSG ) อุปกรณ์จะมีไม่มาก สามารถไปตรวจที่บ้ายผู้ป่วยได้ แต่ผลการตรวจอาจไม่ละเอียด เพราะจะตรวจเกี่ยวกับการหายใจเป็นหลัก ไม่มารตรวจการทำงานของสมองได้
- การตรวจการนอนหลับชนิดมาตรฐาน (Standard PSG) ต้องทำในห้องปฏิบัติการนอนหลับ (Sleep laboratory การตรวจค่อนข้างซับซ้อน ติดอุปกรณ์ตามร่างกายหลายอย่าง เป็นการตรวจคุณภาพการนอนของคืนนั้นๆ และบันทึกด้วยเครื่อง PSG อาจจะให้ผู้ป่วยมารับการตรวจในห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 2 คืน เนื่องจากคืนแรกผู้ป่วยยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานผู้ป่วยลดลง คืนที่ 2 ผู้ป่วยเริ่มคุ้นเคยการนอนหลับจะใกล้เคียงการนอนหลับที่บ้านมากขึ้น ถ้าพบภาวะหยุดหายใจบ่อยอาจลองใส่เครื่องช่วยหายใจ (CPAP) แล้วทำการปรับความดันที่เหมาะสมที่ใช้รักษาการหยุดหายใจ
การตรวจการนอนหลับทั้งสองแบบนี้เป็นวิธีตรวจที่ดีที่สุด (Gold standard) ในการนิจฉัยโรคของการนอน ปกติการตรวจจะใช้เวลาอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง ถ้านอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง จะได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร ต้องมีแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญในการอ่านคลื่นสมอง ตรวจเช็คผลซ้ำอีกครั้งจึงจะเชื่อถือได้แพทย์วินิจฉัยโรคจากอะไรบ้าง
- ประสิทธิภาพการนอน
- ลักษณะของการนอน เปอร์เซ็นต์ของการหลับลึก การหลับฝัน ถ้ามีน้อยมักพบร่วมกับอาการสะดุ้งตื่น ส่งผลให้รู้สึกง่วงนอนในเวลากลางวัน
- ลักษณะของการหยุดหายใจ จากสาเหตุทางสมองหรือสาเหตุจากทางเดินหายจุดตัน ( Respiratory Disturbance Index หรือ RDI ) ซึ่งถ้ามากกว่า 5 ครั้ง/ชั่วโมง ถือว่าผิดปกติ โดยแบ่งระดับความรุนแรงขนาดนี้1. RDI 5 – 15 ครั้ง/ชั่วโมง ความรุนแรงขั้นน้อย2. RDI 15 – 30 ครั้ง/ชั่วโมง ความรุนแรงขั้นปานกลาง3. RDI มากกว่า 30 ครั้ง/ชั่วโมง ความรุนแรงขั้นมากต้องรับการรักษา แต่ถ้าผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด หรือโรคหลอดเลือดสมอง แม้เพียงมากว่า 5 ครั้ง/ต่อโมง ก็ถือว่ารุนแรงมาก ต้องรับการรักษาทันที
- ระดับออกซิเจนในเลือดขณะหยุดหายใจถ้าน้อยกว่า 95 ถือว่าผิดปกติ ถ้าน้อยกว่า 60 ถือว่ารุนแรงขั้นมาก ต้องรับการรักษา เพราะมีอันตรายมากโดยเฉพาะหัวใจ- การเต้นผิดจังหวะของหัวใจ ในช่วงที่หยุดหายใจต่อการเต้นของหัวใจ
- การเต้นผิดจังหวะของหัวใจ ในช่วงที่หยุดหายใจและเกิดภาวะออกซิเจน ถือว่ารุนแรงขั้นมาก ต้องรับการรักษาทันที
- การหยุดหายใจในท่านอนต่างๆ และการหยุดหายใจในระยะหลับฝันการป้องกันและการดูแลรักษาการนอนหลับที่ผิดปกติ
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดยานอนหลับ ยากล่อมประสาท หลีกเลี่ยงน้ำชา กาแฟ
- ควบคุมน้ำหนักโดยการจำกัดปริมาณและชนิดอาหาร- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อตื่นตัว
- นอนท่าตะแคงหลีกเลี่ยงท่านอนหงาย และนอนศีรษะสูงเล็กน้อย
- รีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางรักษาอาการหยุดหายใจขณะหลับ กรณีที่ผู้ป่วยอาการรุนแรงมาก ควรใส่เครื่อง Nasal CPAP ( Nasal Continuous Positive Airway Pressure ) เพื่อปล่อยแรงดันบวก ทำให้ช่องทางเดินหายใจกว้างขึ้น เพื่อให้หายใจได้สะดวกและหลับสบายขึ้น ปัจจุบันการรักษาด้วยวิธีนี้ ถือว่าเป็นการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด สำหรับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติชัดเจน เช่น ต่อมทอลซิลโตมาก เพดานอ่อนยาวมากผิดปกติ หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาในการใช้เครื่อง Nasal CPAP แพทย์อาจทำการผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติดังกล่าวได้
อ่านข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับปัญหาการนอนกรน และโรคหยุดหายใจขณะหลับเพิ่มเติมได้ที่ www.ProfessionSleepCenter.com
ตอบลบถ้าสนใจการรักษาด้วยเครื่อง CPAP ลองดูที่นี่ครับ www.nksleepcare.com เค้ามีให้ทดลองใช้ฟรีด้วย
ตอบลบ