วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

อันตรายจากไมโครเวฟ

คลื่นไมโครเวฟ(Microwave) ที่ใช้ปรุงอาหารคือคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า เหมือนคลื่นวิทยุ คลื่นทีวี คลื่นแสงอินฟราเรด(infrared) คลื่นแสงธรรมดา แสงอัลตราไวโอเลต (Ultra Violet) คลื่นรังสีเอกซ์และคลื่นรังสีแกมม่า
   
       มีความยาวคลื่นสั้นกว่าคลื่นวิทยุ คลื่นทีวี แต่ยาวกว่า คลื่นแสงอินฟราเรดและอื่นๆ ที่กล่าวแล้ว คลื่น ไมโครเวฟ ที่ใช้ปรุงอาหารจะมีความถี่คลื่น 2,450 ล้านรอบต่อวินาที (หรือ 2,150 Megahertz) เมื่อคลื่นพุ่งไปกระทบอาหาร จะถ่ายทอดพลังงานของมัน ให้โมเลกุลของน้ำทั้งในและนอกอาหารเกิดการสั่นสะเทือนเสียดสีกันเป็นความ ร้อน จึงทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว
   
       เมื่อคลื่นไมโครเวฟมอบพลังงานให้โมเลกุลของน้ำหมดแล้ว มันก็จะสลายตัวไป ไม่สะสมอยู่ในอาหารอีก เหลือไว้แต่สภาพอาหารที่เปลี่ยนจากอาหารเดิมเป็นอาหาร สุกเท่านั้น คลื่นไมโครเวฟจึงไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
   
       • ทางการแพทย์มีการนำคลื่นชนิดนี้
       มาใช้ในการรักษาบ้างหรือไม่

   
       ทางการแพทย์นำคลื่นไมโครเวฟมาใช้ในการรักษาบ้างเหมือนกัน แต่เป็นคลื่นไมโครเวฟที่มีความถี่คลื่นน้อยกว่าไมโครเวฟที่ใช้ปรุงอาหาร เพราะต้องการเพียงความร้อนขนาดอุ่นๆ สบายๆ หรือความร้อนสูงขึ้นอีกเล็กน้อยขนาดพอทนได้ ไม่ใช่ร้อนมากขนาดจะทำให้เนื้อสุกไหม้ เช่น
   
       ทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้ไมโครเวฟความถี่ต่ำ เพื่อใช้คลายการปวดกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ มีความร้อนขนาดอุ่นๆ กำลังสบายๆ
       
       ทางด้านรังสีรักษาและทางระบบทางเดินปัสสาวะ ใช้ไมโครเวฟความถี่สูงขึ้นกว่าทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูประมาณ 915 MZ ให้ความร้อนสูงขึ้น แต่ไม่ถึงจุดเดือด ใช้รักษาทำลายเซลล์มะเร็งเฉพาะที่ตื้นๆ ร่วมกับการรักษาด้วยรังสีและยารักษามะเร็ง เครื่องเดียวกันนี้ยังสามารถใช้รักษาโรคต่อมลูกหมากโตในชายผู้สูงอายุบางราย ได้ด้วย
   
       • คลื่นที่ใช้ในไมโครเวฟ
       มีอันตรายต่อสุขภาพด้านใดหรือไม่

   
       คลื่นไมโครเวฟ ที่ใช้ในการปรุงอาหารไม่มีอันตราย ต่อสุขภาพ เพราะคลื่นจะสลายตัวไปไม่สะสมในอาหาร เมื่อรับประทานอาหารที่ทำให้สุกด้วยไมโครเวฟ จึงไม่เกิดอันตรายใดๆทั้งสิ้น
   
       • การจ้องมองแสงขณะที่เครื่องกำลังทำงาน มีอันตรายต่อดวงตา จริงหรือไม่
   
       ไม่จริง เพราะคลื่นไมโครเวฟไม่สามารถจะทะลุทะลวงผ่านผนังตู้และฝาตู้ออกมาได้ เพราะมีแรงทะลุทะลวงต่ำกว่าอินฟราเรด แสงธรรมดา และอัลตราไวโอเลต และรังสีเอกซ์หรือรังสีแกมม่า และแสงที่เรามองเห็นในตู้ไม่ใช่แสงของคลื่นไมโครเวฟ แต่เป็นแสงของดวงไฟฟ้าที่เขาติดตั้งไว้ให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในตู้ขณะ เครื่องทำงานเท่านั้นเอง
   
       • อาหารที่ผ่านการปรุงด้วยไมโครเวฟ
       จะมีรังสีตกค้างหรือปะปนมาในอาหารหรือไม่

   
       อาหารที่ผ่านการปรุงด้วยไมโครเวฟ จะไม่มีรังสีตกค้าง หรือปะปนมาในอาหาร เพราะรังสีเป็นคลื่นพุ่งผ่าน แล้วมอบพลังงานของมันให้กับสิ่งที่มันพุ่งผ่านไป เมื่อพลังงานของมันหมด มันก็สลายตัวไป คงเหลือแต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังมันวิ่งผ่านไป คือเกิดความร้อนทำให้อาหารสุกนั่นเอง
   
       • ในการใช้เครื่องไมโครเวฟ
       มีข้อควรระมัดระวังอะไรบ้าง

   
       1. เลือกซื้อเครื่องจากบริษัทที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพการผลิต ฝาตู้ต้องปิดได้แน่นสนิท ไม่มีรอยรั่ว
   
       2. ก่อนใช้ต้องอ่านคู่มือการใช้ให้ละเอียด ทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน
   
       3. ไม่ควรวางของหนักหรือเหนี่ยวโหนประตูตู้ ในขณะที่ประตูเปิดอยู่ เพราะจะทำให้ฝาตู้ปิดไม่สนิท มีคลื่นไมโครเวฟรั่วออกมาได้ระหว่างใช้
   
       4. เมื่อตู้ชำรุด ไม่ควรแก้ไขเอง ควรติดต่อช่างที่ชำนาญมาแก้ไข
   
       5. ไม่ควรใช้ดวงตาแนบกับฝาตู้ขณะเครื่องทำงาน เพื่อความไม่ประมาท
   
       6. การจะวัดว่ามีคลื่นไมโครเวฟรั่วไหลออกมาจากเครื่อง ทำได้โดยใช้เครื่อง Survey Meter ให้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่กองรังสี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หรือบริษัทใหญ่ๆ ที่ขายเครื่องไมโครเวฟ จะมีบริการการวัดคลื่นไมโครเวฟที่รั่วออกมานอกตู้ให้ได้
   
       • อายุการใช้งานของเครื่องและการดูแล
       มีส่วนสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยอย่างไร

   
       อายุการใช้งานของเครื่อง หากใช้ทะนุถนอม ไม่ทำรุนแรง ก็จะใช้เครื่องได้นานมาก บอกไม่ได้แน่นอน ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ และวัสดุโครงสร้างของเครื่อง
   
       การดูแลมีส่วนสำคัญมากในเรื่องของความปลอดภัย เมื่อใช้ตู้ไปแล้วต้องเช็ดทำความสะอาดตู้สม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้เศษอาหารกระเด็นค้างอยู่ในตู้เป็นระยะเวลานานๆ เพราะความเค็มของอาหารจะทำให้เหล็กตู้เป็นสนิมและเกิดเป็นรอยทะลุ ทำให้คลื่นไมโครเวฟรั่วออกมา เกิดอันตรายกับผู้ใช้ได้ ห้ามใช้ของมีคมขูดหรือขัดตู้
   
       ตู้ไมโครเวฟถ้ารู้จักใช้ให้ถูกวิธีจะมีประโยชน์มาก เพราะสะดวก รวดเร็ว ประหยัด เหมาะสำหรับชีวิตปัจจุบัน ซึ่งต้องเร่งรีบไปหมดทุกอย่าง
   
       อย่าลืมซื้อเครื่องที่มีมาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพ อ่านคู่มือก่อนใช้ และเลือกภาชนะที่ใช้ให้เหมาะสม หากเครื่องดีไม่มีรอยรั่ว อันตรายจากไมโครเวฟจะไม่เกิดขึ้นเลย100%
   
       ข้อแนะนำในการใช้ไมโครเวฟที่ถูกต้องและปลอดภัย
   
       1. เลือกภาชนะที่ใช้กับตู้ไมโครเวฟให้เหมาะสม เช่น ชามแก้วทนไฟ ชามกระเบื้อง พลาสติกทนความร้อน ภาชนะไม้ จานกระดาษ
   
       2. ห้ามใช้ภาชนะโลหะทุกชนิดกับตู้ไมโครเวฟ หรือภาชนะกระเบื้องที่มีขอบเงินขอบทองเป็นส่วนผสมของโลหะ เพราะคลื่นไม่สามารถจะพุ่งผ่านไปได้ เมื่อชนโลหะแล้วคลื่นจะสะท้อนกลับ เกิดการสปาร์ค (spark) เป็นดวงไฟเล็กๆ เกิดเสียงดัง และอาจจะทำให้เกิดไฟลุกไหม้ในตู้ได้ หากในตู้นั้นไม่สะอาดมีน้ำมันกระเด็นไปรอบตู้ เป็นต้น
   
       3. เวลาปรุงอาหารที่เป็นน้ำหรือน้ำมัน เมื่อเดือดมีโอกาสกระเด็นไปไกลไปติดรอบตู้ สกปรกเป็นมันเลอะเทอะ ทำให้ต้องทำความสะอาดตู้ยุ่งยาก อาจจะใช้ฝาชีพลาสติกทนความร้อน ครอบอาหารเสียก่อนเริ่มเปิดใช้เครื่องไมโครเวฟ ทำให้ประหยัดเวลาในการทำความสะอาดตู้
   
       4. ไม่ควรนำอาหารที่มีผิวมันหรือมีเปลือกแข็ง เข้าไปทำให้สุกในตู้ เพราะความร้อนทำให้อากาศภายในอาหารขยายตัว ประกอบกับไอน้ำที่เกิดขึ้นมีแรงดันสูง จะทำให้เกิดระเบิดเสียงดังได้ ควรใช้ส้อมจิ้มผิวอาหารหรือเปลือกอาหารให้เป็นรูเสียก่อน เพื่อป้องกันการปะทุที่เกิดจากความร้อนภายในอาหารขยายตัว
   
       5. การปรุงอาหารด้วยภาชนะที่มีฝาปิดในตัว ควรเผยอฝาปิดเล็กน้อย เพื่อให้ไอน้ำพุ่งออกได้ หรือพลิกฝาปิดเพียงวางไว้เฉยๆ ไม่ปิดแน่น
   
       (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 130 กันยายน 2554 โดย รศ.พญ.สุพัตรา แสงรุจิ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น