วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ออกกำลังกาย...ต้านมะเร็ง

ออกกำลังกาย...ต้านมะเร็ง

การศึกษาใหม่ระบุว่าเพียง 30 นาทีของการออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำทุกวันสามารถลดโอกาสของการเป็นโรคมะเร็งได้
การศึกษาครั้งนี้ดำเนินการโดยกองทุนวิจัยมะเร็งโลก ( The World Cancer Research Fund) และพบว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีความเสี่ยงต่ำต่อการเป็นโรคมะเร็งเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าผู้ที่ออกกำลังกายอยู่เสมอจะมีรูปร่างที่เหมาะสม ไม่อ้วน ซึ่งความอ้วนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่การเป็นโรคมะเร็งได้
ดร.ราเชล ทอมป์สัน (Dr Rachel Thompson) แห่งกองทุนวิจัยมะเร็งโลกกล่าวว่า ขณะนี้มีหลักฐานที่ยืนยันหนักแน่นมาก ว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งและอย่าคิดว่าออกกำลังกายหนักๆ เท่านั้นจึงจะสามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ เพราะมีผู้คนมากมายที่ออกกำลังกายเพียงเบาๆ เป็นประจำทุกวัน เช่น การเดินเร็ว การวิ่งจ๊อกกิ้ง หรือการเดินขึ้นลงบันได ก็สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้
การออกกำลังกายไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งเท่านั้น แต่การออกกำลังกายยังช่วยป้องกันการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมอง รวมทั้งยังลดโอกาสการเป็นโรคเบาหวานได้อีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เครื่องดื่มบำรุงกำลัง

เครื่องดื่มบำรุงกำลังในบ้านเรามีด้วยกันหลายชนิด เครื่องดื่มดังกล่าว ส่วนใหญ่บรรจุใส่ขวดขนาด 100 ม.ล. ประกอบไปด้วยสารเคมีหลายชนิด เช่น ไวตามินบีรวม ( Pentothenic acid , Inositol , Niacin , Pyridoxin , Cyanocobalamin ) คาเฟอีน ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับที่พบในชา กาแฟ ซึ่งเฉลี่ยแล้วใน ชา หรือกาแฟ 1 ถ้วย จะมีคาเฟอีน ประมาณ 100 มิลลิกรัม แต่ในเครื่องดื่มบำรุงกำลังจะมีคาเฟอีนอยู่ประมาณ 50 มิลลิกรัม ฤทธิ์ของคาเฟอีน เป็นสารที่กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง หัวใจ ระบบการหายใจ ตลอดจนการทำงานของไต




กรดซิตริก ก็เป็นสารอีกชนิดหนึ่งที่มีอยู่สูงในเครื่องดื่มดังกล่าว ( กรดชนิดนี้จะมีอยู่ในน้ำผลไม้ต่างๆ โดยเฉพาะมะนาว และส้มโอ ) ทำให้รสดีขึ้น นอกจากนี้ยังมี Bile acid ( Tourine และ glucuronolactone ) ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการย่อยและดูดซึมอาหารประเภทไขมันในลำไส้ และสารที่มีมากที่สุดคือ น้ำผึ้ง เป็นที่น่าสังเกตว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ มีส่วนประกอบของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง แต่อาจไม่จำเป็นนัก ในกรณีที่ออกกำลังกายไม่ต่อเนื่องยาวนานมากนัก ( ไม่เกิน 2 – 3 ชั่วโมง ) เนื่องจากอาหารและน้ำที่เรารับประทานเข้าไปสามารถชดเชยพลังงานที่สูญเสียไปได้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย แต่อาจมีความจำเป็น ในกรณีที่ออกกำลังกายเป็นระยะเวลานานเกินกว่า 3 ชั่วโมง เนื่องจากร่างกายจะสูญเสียพลังงานค่อนข้างมาก ประกอบกับสูญเสียแร่ธาตุที่จำเป็นต่อปฏิกริยาทางเคมีในร่างกาย ( metabolism ) ซึ่งอาจทำให้อัตราการฟื้นตัว ( recovery ) ของร่างกายช้าลงได้ การรับประทานเครื่องดื่มดังกล่าว จึงอาจเพิ่มอัตราการฟื้นตัวของร่างกายให้เร็วขึ้น แต่ยังไม่มีนักวิจัยรายใดที่จะสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว



วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กลไกการทรงตัว

การทรงตัวนั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ใช้ในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ประกอบไปด้วยการรักษาสมดุล (Balance) และการควบคุมท่าทาง (Postural control) การฝึกการทรงตัวทำได้โดยการฝึกกล้ามเนื้อที่ใช้ในการพยุงตัวให้มีความแข็งแรง ทำงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ




การฝึกยืนทรงตัวบนไม้กระดานที่พลิกไปมาได้จะช่วยให้ร่างกายมีการปรับตัวเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ป้องกันและตอบสนองได้ดีเมื่อเกิดการสูญเสียการทรงตัว ซึ่งการฝึกดังกล่าวทำให้ร่างกายเกิดกลไกของการ Feedback และ Feed forward ตอบสนองต่อการล้มได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า การฝึกบนกระดานฝึกการทรงตัวจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของระบบประสาทภายในข้อต่อ อันเป็นผลให้การทรงตัวของร่างกายดีขึ้น ทำให้เกิดการพลิกของข้อเท้าซ้ำลดลง และทำให้ความแข็งแรงและความมั่นคงของข้อเท้าเพิ่มมากขึ้นในการประเมินระดับความสามารถของการทรงตัวนั้น สามารถวัดได้โดยใช้เครื่องมือช่วยในการวัด หรือใช้แบบสอบถามในการวัดการทรงตัว ซึ่งตัวแปรที่ใช้วัดระดับ การทรงตัวมีหลากหลายตัวแปร ทั้งเวลาที่สามารถทรงตัวได้ ความเร็วในการแกว่งตัวขณะวัด ฯลฯ



สำหรับวิธีฝึกทรงตัวบนกระดานฝึกการทรงตัวนั้นสามารถทำได้โดยการฝึกทรงตัว 30 วินาทีต่อเนื่องกัน ใช้เวลารวมในการฝึกประมาณ 15 นาที ฝึก 30 วินาที พัก 1 นาทีโดยไม่ใช้แขนหรือลำตัวส่วนบนช่วยในการทรงตัว ค่อยๆเพิ่มระดับความยาก โดยการใช้ขาข้างเดียว และหลับตาในขณะฝึก (งานกายภาพบำบัดฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย , 2543) การฝึกการทรงตัว มิได้เหมาะสำหรับในผู้ที่เกิดการบาดเจ็บเท่านั้น แต่ในบุคคลทั่วไปการฝึกการทรงตัวจะช่วยให้โอกาสเกิดการบาดเจ็บลดน้อยลง ทั้งในขณะที่ดำรงชีวิตประจำวัน และในขณะออกกำลังกายได้อย่างดี