วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ ออกกำลังกายช่วยได้

สาเหตุ

มักเกิดจากการทำงานก้ม ๆ เงย ๆ ยกของหนัก นั่ง ยืน นอน    หรือยกของในท่าที่ไม่ถูกต้อง 
ใส่รองเท้าส้นสูงมากเกินไป หรือนอนที่นอนนุ่มเกินไป นั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ และ
คนอ้วน หรือคนน้ำหนักมาก
การรักษา ที่ดีที่สุด คือ ป้องกันสาเหตุ ได้แก่ 

1.
ลดน้ำหนักตัว ไม่ใช่การอดอาหาร แต่เป็นการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่งดเว้นการกินอาหาร
   
ที่มีแคลอรี่สูง มากเกิน ความจำเป็น เช่น ดื่มน้ำหวาน
2.
การออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ
กระดูกสันหลังปกติรับน้ำหนักมากอาจหลุดได้ แต่นักกีฬายกน้ำหนัก ได้มาก เพราะมีกล้ามเนื้อท้อง 
แข็งแรง เปรียบเสมือนมีลูกบอลคอยช่วย รับน้ำหนักไว้ หมั่นออกกำลัง กล้ามเนื้อหลัง ไหล่ คอ และแขน เป็นประจำ 
ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆแข็งแรง ช่วยป้องกันการปวดได้
3.
เรียนรู้การใช้กิริยาท่าทางที่ถูกต้องในชีวิตประจำวัน 
4.
หลีกเหลี่ยงการอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานาน 
5.
หลีกเหลี่ยงการใช้แรงงานมาก ๆ และรู้ถึงขีดจำกัดกำลังของตัวเองในการยกของหนัก 
การบริหารร่างกายป้องกันอาการปวด 
1.
ประโยชน์ 
1.1
ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวไม่เกร็ง และแข็งแรงอยู่เสมอ 
1.2
กระดูกและข้อเสื่อมช้าลง 
2.
หลักการ 
2.1
เป็นการออกกำลังบริหารร่างกาย เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ หน้าท้อง หลัง 
      
ตะโพก และต้นขา และเพื่อยึดกล้ามเนื้อด้านหลังของหลังและขา 
2.2
ควรออกกำลังบริหารด้วยความตั้งใจ ทำช้า ๆ ไม่หักโหม บริหารอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง 
      
เช้า – เย็น และในแต่ละท่าการบริหารทำประมาณ 10 ครั้ง 
2.3
ท่าบริหารท่าใดท่าที่ทำแล้วมีอาการปวดหลังมากขึ้น ให้งดทำในท่านั้น ๆ 

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

Workout Time Contest


  
พบกันอีกแล้วครับ   สำหรับกิจกรรมภายใน เพื่อทดสอบความฟิตของร่างกาย กับ Leaders wellness ในครั้งนี้ ใครจะเป็นผู้พิชิตชัย  เรามาติดตามดูกันครับ...
      หลังจากเปิดรับสมัคร มี Member ผู้เข้าร่วมแข่งขัน ทั้งหมด 36 ท่าน เรามาอัพเดทการแข่งขันกันดีกว่า ว่า ท่านใดครองอันดับที่เท่าไหร่กับบ้าง...
      เริ่มจาก อันดับที่ 1 มีคะแนนนำอยู่ในขณะนี้ คุณจิตติ  ทันทนศิริเดช
                   อันดับที่ 2 คุณธรวรรณ  เดชะไกศยะ
                   อันดับที่ 3 คุณวราภรณ์  โชติกุลธนชัย
                   อันดับที่ 4 คุณอนุกุล  รบว่อง
                   อันดับที่ 5 คุณดวงพร  ธาราเนตร์
      และนี้คือ 5 อันดับแรกที่มีความฟิต ของร่างกายดีเยี่ยม และมีคะแนนนำยู่ในขณะนี้ สำหรับผู้เข้าแข่งขันท่านอื่นๆ รีบ เร่ง ทำคะแนน กันนะครับ ยังเหลือเวลา อีก 1 เดือน ก่อนผลตัดสิ้นจะออก
      และเราจะมาอัพเดท 5 อันดับแรกของการแข่งขันกันอีกครั้ง ในครั้งต่อไป วันศุกร์ที่ 6 พ.ค.54 อย่าลืม! ติดตามกันได้นะครับ.........

      --------------------------------------------------------------------------------------------------------
   
      ตามคำสัญญาเรามาอัพเดท 5 อันดับแรก กันนะครับ ....  เรามาดุกันดีกว่าค่ะ ว่า สัปดาห์นี้มีใครขึ้นนำกันบ้าง
       เริ่มจาก อันดับที่ 1  คุณวราภรณ์  โชติกุลธนชัย
                    อันดับที่ 2  คุณเนตรจิรา  เทพปรีชาสกุล
                    อันดับที่ 3  คุณดวงพร  ธาราเนตร์
                    อันดับที่ 4  คุณสุรินทร์  ตัณฑนันนท์
                    อันดับที่ 5  คุณจิตติ  ทันทนศิริเดช
     และนี้คือรายชื่อ 5 อันดัลแรกที่คงความฟิตประจำสัปดาห์นี้ แสดงความยินดีด้วยครับ และเราจะมาอัพเดทกันอีกครั้งแล้วพบกันครับ
                                        

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

ทำไมต้องออกกำลังกาย?

ทำไมต้องออกกำลังกาย?
            วันเวลาที่หมุนเวียนไป ร่างกายของคุณย่อมเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา โรคภัยที่ไม่มีใครอยากให้มาเยือนอาจทำร้ายสุขภาพของคุณให้แย่ลง อันเนื่องมาจากการเสื่อมสภาพของร่างกายดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุน  เบาหวาน  โรคอ้วน  โรคเครียด  คลอเลสเตอรอล หรือความดันโลหิตสูง เป็นต้น
                การเสื่อมสภาพของร่างกาย  และโรคต่างๆเหล่านี้ สามารถป้องกันได้ !! ด้วยตัวคุณเอง
หันมาใส่ใจสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ช่วยชลอความชรา และป้องกันโรคต่างๆอย่างได้ผล ด้วยการออกกำลังกายอย่างถูกต้องกันเสียแต่วันนี้

ขั้นตอนการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
ขั้นตอนของการออกกำลังกายที่ถูกต้องประกอบด้วย  ขั้นตอนดังต่อไปนี้คือ
1.     Warm up อบอุ่นร่างกายด้วยการเดิน หรือการวิ่งเหยาะเพื่อให้กล้ามเนื้อพร้อมที่จะทำงาน ช่วยเพิ่มอุณหภูมิในกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนเลือด ใช้เวลาประมาณ 5-8  นาที
2.     Stretching  การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และข้อต่อต่างๆให้พร้อมสำหรับการออกกำลังกาย ช่วยป้องกัน และลดการบาดเจ็บ  ใช้เวลาประมาณ 5-8  นาที
3.       Work Out  การฝึกออกกำลังกายตามระดับความเหนื่อยที่เหมาะสม (Target Zone) ใช้เวลาประมาณ  25-35  นาที
4.     Cool Down การผ่อนคลายร่างกายด้วยการลดความเหนื่อยของการฝึกลงอย่างช้าๆ และการยืดเหยียดกล้ามเนื้อร่วมด้วยเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพ และลดของเสียที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกาย ช่วยลดความปวดเมื่อยจากการออกกำลังกาย

            แน่นอนครับว่าการฝึกออกกำลังกายที่คลับ ย่อมมีเครื่องมือที่ทันสมัย และเพียบพร้อมกว่าการฝึกด้วยตนเองที่บ้าน แต่ด้วยอุปสรรคในการเดินทาง และความเป็นส่วนตัว การฝึกออกกำลังกายด้วยตนเองที่บ้านจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับสังคมคนเมือง และผู้ที่ไม่มีเวลาในการไปฟิตเนส หรือผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ความจริงแล้วไม่ว่าคุณจะฝึกออกกำลังกายที่ใดก็หนีไม่พ้นหลักของการฝึกออกกำลังกายสี่ประการ (FITT) อันประกอบด้วย 1.Frequency = ต้องบ่อยพอ ประมาณ 3 ครั้ง/อาทิตย์ 2.Intensity = ต้องหนักพอ หัวใจต้องเต้นในช่วงที่เหมาะสม (Target Zone) 3.Time = ต้องนานพอ อยู่ใน Target Zone ประมาณ 20-30 นาที และ 4.Type = ชนิดของกิจกรรมที่ต้องให้เหมาะกับเป้าหมายของการฝึกออกกำลังกาย

            จากหลักการฝึกออกกำลังกายข้างต้น จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ และสำคัญที่สุดคืออุปกรณ์ที่ใช้วัดความหนักของการออกกำลังกาย ซึ่งก็คืออุปกรณ์ที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจนั่นเอง (Heart Rate Monitor) อุปกรณ์วัดอัตราการเต้นของหัวใจจะช่วยให้คุณควบคุมความเหนื่อยในการออกกำลังกาย (Target Zone) ได้อย่างเหมาะสม และไม่ก่อให้เกิดอันตรายจากการฝึกหนักเกินไป
                นอกจากนี้ควรมีเครื่องฝึกหัวใจ เช่น Bone Builder    ลู่วิ่ง   หรือจักรยาน เพื่อเสริมสร้างสมรรถภาพหัวใจ และอุปกรณ์ในการฝึกเวท เช่น ดัมเบล  บาร์เบล หรือ Home Gym  เนื่องจากเป็นการออกกำลังกายที่ก่อให้เกิดแรงกดต่อกระดูก ทำให้กระดูก และกล้ามเนื้อแข็งแรง กระชับ ได้รูปร่างสวยงาม
                และที่ขาดไม่ได้คือโปรแกรมการฝึกออกกำลังกาย ที่อาจจะต้องได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

7 สิ่งที่กินแล้วสาวเสมอ

HEALTHY TIPS (7 สิ่งที่กินแล้ว สาวเสมอ)

1. หยุดผมร่วง
รับ ประทานกล้วย ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี มีสรรพคุณป้องกันผมร่วงได้ดี การรับประทาน กล้วยเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยรักษาเส้นผมให้อยู่คู่กับหนังศีรษะได้นานวัน
2. ลดผิวมัน
รับ ประทานธัญญาหารทุกเช้า ซึ่งอุดมด้วยวิตามินบี 2 ที่ช่วยหยุดยั้งการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ของต่อมผลิตภายในร่างกายที่เป็นสาเหตุหนึ่งของเส้นผมบางและมัน
3. หยุดการลอกของผิวหนัง
รับประทานปลาแซลมอนใส่เกลือรมควัน อาหารทะเลหรือสลัดผักสดก็ได้
4. ผิวเนียนใสเหมือนเด็ก
มะ ม่วงมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดี โดยช่วยกระตุ้นการสร้าง ผิวหนัง รวมทั้งหนังศีรษะเพื่อทดแทนของเดิมที่หยาบแห้งและขรุขระ ให้กลับมีความชุ่มชื่นและนุ่มเนียน
5. ชะลอผมหงอก
รับ ประทานถั่วลิสงอบเนยรวมกับเกล็ดขนมปังที่อบมาร้อน ๆ ก่อนมื้ออาหาร ถั่วลิสงมี วิตามินบีที่สามารถหยุดการเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีดอกเล าได้ และยังทำให้ผิวหนังดูดีขึ้นอีกด้วย
6. ดูหนุ่มสาวขึ้นอีก 5 ปี
รับ ประทานฝรั่ง หรือน้ำฝรั่งซึ่งอุดมด้วยวิตามินซี เพราะจะช่วยเก็บรักษา คอลลาเจนที่เป็นบ่อเกิดแห่งโปรตีนภายใต้ผิวหนัง หรือรับประทานมะละกอ ส้ม ลูกเกดสีดำอบแห้ง ร่วมกับ ผลไม้ประจำวันก็จะช่วยเพิ่มวิตามินซีเช่นกัน
7. ปกป้องใบหน้าจากมลพิษ
วิตามิน บีในอะโวคาโดช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยและร่างกายเกิดความ ต้านทานจากการทำลายในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้รวมถึงการถูกทำลายจากบรรยากาศที่มลภาวะเป็นพิษ

How to Lose Weight Fast & Easy!

10 Minute Workout for Weight Loss, Fat Loss, & Muscle Gain, Video Pittsb...

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

6-pack abs part2, Nutrition

Fitness and Wellness For a Longer, Happier Life

การออกกำลังกายและคุณภาพชีวิตเพื่อชีวิตที่ยืนยาว และมีความสุข

การมีชีวิตยืนยาว และมีความสุขเกี่ยวข้องกับทุกด้านของการออกกำลังกายและคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทางกาย  สังคม  อารมณ์และทางปัญญา เพื่อสร้างสมดุลเราจะต้องตระหนักถึงซึ่งรูปแบบของการดูแลคุณภาพชีวิตที่ดี เราจำเป็นต้องจัดการกับการเปลี่ยนแปลงภายในตัวเราและในชีวิตของเรา การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ การเคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลาและนอนหลับอย่างมีคุณภาพ เหล่านี้เป็นตัวเลือกทั้งหมดที่อาจย้ายเราเข้าใกล้หรือห่างไกลจากชีวิตที่ยืนยาว และมีความสุข การรักษาความสมดุลนี้ต้องใช้ความรู้และทักษะความชำนาญที่เราเรียกว่าสติ เมื่อเราบรรลุความสมดุลในทุกด้านของสิ่งเหล่านี้เราก็จะรู้สึกได้ถึงความอ่อนเยาว์และเต็มไปด้วยความพร้อมของร่างกายและจิตใจในการดำเนินชีวิต
 

 

ออกกำลังกายและคุณภาพชีวิต

วงจรของการออกกำลังกาย และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีนั้น ทำให้คุณมีสุขภาพที่ดี และส่งผลให้มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น และเมื่อคุณอยากมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ก็ยิ่งต้องทำให้สุขภาพตัวเองดีขึ้น เป็นที่แน่ชัดว่าคนที่มีสุขภาพดีจะมีความสุขในการใช้ชีวิตมากกว่าคนที่สุขภาพไม่ดี
นอกจากนี้การออกกำลังกายและคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้คุณมีความสุขกับชีวิตและทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้น แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันโรค และปกป้องคุณจากโรคต่างๆ แน่นอนว่าการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา ทั้งยังช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล พบว่าเมื่ออายุคุณมากขึ้น และไม่ได้ออกกำลังกายคุณอาจต้องหมดเงินไปกับค่ารักษาพยาบาลถึงเดือนละกว่าหมื่นบาทเลยทีเดียว
นอกจากนี้การมีภาวะโภชนาการที่ดีคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณรักษาการออกกำลังกายและคุณภาพชีวิตที่ดีเอาไว้ การทานอาหารสิ่งใด ก็จะส่งผลถึงตัวคุณออกมาทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และความรู้สึก สีหน้าท่าทาง เช่นการทานอาหารที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ต่อต้านอนุมูลอิสระ หรือต่อต้านสารเคมีที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นในร่างกาย ซึ่งปฏิกิริยานี้จะไปทำลายเซลที่ดีในร่างกาย หรือทำให้เซลที่ดีเหล่านี้มีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ส่งผลให้เกิดริ้วรอย  การสูญเสียความชุ่มชื้น  ความตึง และความนุ่มนวลของผิวหนัง  ตลอดจนส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณของการถดถอยของร่างกาย เข้าสู่วัยชรา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้คือการที่เราบริโภคผักและผลไม้ลดน้อยลง